มี 7 วิธี หรือที่เรียกกันว่า 7 R มานำฝาก นะค่ะ
1.Refuse ปฏิเสธถุงพลาสติกและโฟม
จากรายงานขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ระบุว่าประเทศไทยมีปริมาณขยะประเภทพลาสติกและโฟมมากถึง 2.7 ล้านตัน หรือ เฉลี่ย 7,000 ตันต่อวัน ซึ่งในจำนวนนี้ ไม่สามารถกำจัดด้วยวิธีฝังกลบได้ทั้งหมด เพราะ
พลาสติกใช้เวลาย่อยสลายถึง 450 ปี เผาทำลายไม่ได้ เพราะพลาสติกมีส่วนประกอบของเม็ดปิโตรเลียม ซึ่งเมื่อละเหยไปในบรรยากาศ จะสร้างสารปนเปื้อนในดินและน้ำ
2. Recycle (แยกขยะให้เป็นนิสัย)
ทุกคนคงเคยเห็นถังขยะหลากหลายสีมาตั้งแต่เด็ก แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากการแยกขยะให้เป็นนิสัย จะช่วยให้กำจัดขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว มันยังช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ใช้ในกระบวนการกำจัดขยะอีกด้วย เพราะแต่ละวัน เจ้าหน้าที่จะต้องเก็บขยะวันละมากกว่า 9,000 ตัน ซึ่งใช้งบประมาณมากกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งการแยกขยะ และทิ้งขยะลงในถังตามสี คือ ทิ้งเศษอาหาร กากของผัก ผลไม้ ในถังสีเขียว ทิ้งแก้วอลูมิเนียม หรือวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ในถังสีเหลือง และทิ้งขยะทั่วไปที่สามารถนำไปเป็นเชื้อเพลิง ตลอดจนใช้เป็นสิ่งประดิษฐ์ เช่น กล่องนม เศษผ้า ยาง ไม้ในถังสีน้ำเงิน เพียงเท่านี้ ทุกคนก็สามารถช่วยโลกได้ และยังเป็นการช่วยประหยัดงบประมาณของประเทศอีกทางหนึ่งด้วย
3. Reuse (ใช้อย่างคุ้มค่า)
- อาจจะเริ่มจากการใช้ปากกาจนหมดด้าม เขียนดินสอจนหมดแท่ง
- การใช้กระดาษให้เต็มทั้งสองหน้าจนเป็นนิสัย
- ลองเอาของที่ไม่ใช้แล้วมาทำเป็นของใช้หรือดัดแปลงเป็นของ D.I.Y
ลองประดิษฐ์ของชิ้นเล็กๆ น่ารัก แล้วนำไปมอบให้คนที่คุณรักดูสิ แล้วจะรู้ว่างาน D.I.Y
ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด
(ตอนนี้ กำลังคิดว่าจะทำอะไรให้พี่สาวคนหนึ่งในวันคล้ายวันเกิดสักชิ้น จะทันไหมหนอ 3 พ.ค.นี้)😁
4. Refill (เลือกซื้ออะไรที่เติมได้ ลดขยะจากบรรจุภัณฑ์)
เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อของอุปโภคต่างๆ เช่นน้ำยาซักผ้าแบบ Refill ลดการซื้อของในบรรจุภัณฑ์ใหม่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในบ้านลงได้มากกว่า 30 %
การทำแบบนี้จะช่วยลดมลภาวะที่เกิดจากกระบวนการผลิต Packaging ในโรงงานได้ด้วย เรียกว่าทำแค่อย่างเดียว แต่ช่วยโลกได้สองต่อเลยนะ!
5. Refair (ใช้อย่างทะนุถนอม ซ่อมแซมเท่าที่ทำได้)
เคยลองสังเกตุสิ่งของรอบตัวดูบ้างไหม ว่าเรากำลังใช้มันอย่างผิดวิธี หรือกำลังทำให้มันพังก่อนถึงเวลาหรือเปล่า โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเช่น
- อย่าเปิดแอร์อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศา
- ไม่ใช้ไมโครเวฟกำลังแรง อุ่นอาหารเป็นเวลานาน
- ไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์มากกว่าวันละ 8 ชม.
- ฝึกซ่อมอุปกรณ์ด้วยตนเองช่วยลดปริมาณขยะ แทนที่เราจะต้องทิ้งสิ่งของนั้นไป
6. Reduce (ลดการใช้สิ่งต่างๆ)
ลองเลือกซื้อผลิตภัณฑ์หรือสินค้าขนาดใหญ่ใช้ได้นาน แทนการซื้อสินค้าที่มีขนาดเล็ก หรือมีปริมาณน้อยหลายๆ ชิ้นดูสิ ถ้าอะไรที่มีอยู่แล้ว ลองห้ามใจตัวเอง ไม่ซื้อของประเภทเดียวกันหรือแบบเดียวกันไว้ที่บ้าน นอกจากจะลดปริมาณขยะได้มากแล้ว ยังเป็นวิธีต้ดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นอีกด้วย
7. Return (หมุนเวียนมาใช้ใหม่)
หลายคนคงอาจไม่รู้ว่า การคืนขวดน้ำอัดลม หรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆ กลับไปสู่ผู้ผลิตนั้น นอกจากจะผ่านการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่แล้ว กระบวนการดังกล่าว ยังมีส่วนช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางทะเลด้วย เนื่องจากขวดแก้ว หรือบรรจุภัณฑ์ที่เป็นแก้ว ต้องใช้ทรายเป็นวัตถุดิบหลัก โดยทั้งหมดจะถูกขุดขึ้นมาจากบริเวณรอบๆ ชายฝั่งทะเล การใช้ทรายแก้วจำนวนมาก จึงทำให้แนวดินดอนชายฝั่งทะเลถูกทำลาย และเสียรูปทรงดั้งเดิม อีกทั้งถูกกัดเซาะสูงขึ้น จนเกิดเป็นปัญหาภูมิทัศน์ทางทะเลตามมา เราจึงควรแยกขวดแก้วออกจากขยะอื่นๆ และส่งคืน เพื่อกระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่ และรักษาชายหาดที่สวยงามไปพร้อมกัน
อาจจะไม่ต้องทำตามให้ครบทุกวิธี แต่แค่เลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง แล้วนำมาปรับใช้อย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถกลายเป็นหนึ่งกำลังสำคัญที่ช่วยโลกของเราให้น่าอยู่ขึ้นเป็นกอง
อ้างอิงข้อมูลจาก https://kasets.art/DEASOw