วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2568

ผ้าเก่า มีค่า อย่าทิ้ง

 สวัสดีค่ะ เดือนมีนาคม วันนี้ มาพูดถึงเรื่องผ้าเก่า หรือเสื้อผ้าเก่าๆ ที่สาวๆ อย่างพี่ หรือน้อง มีเสื้อผ้าใส่กันมากมาย ซื้อแบบบางชุดใส่เพียงครั้งเดียว แล้วก็เก็บ แล้วซื้อใหม่ ใครเป็นไหมค่ะ สุดท้ายก็เก่าเก็บ ใส่เพียงครั้งเดียว ครั้นจะทิ้ง ก็รู้สึกเสียดาย บางทีก็บริจาคไปบ้าง แต่วันนี้ มีงาน DIY ที่สามารถสร้างมูลค่า สร้างรายได้ให้กับเราได้  นำผ้าเก่าที่เรามี ซักให้สะอาด นำมาแยกประเภทผ้า แล้วตัดเป็นริ้วๆ นำมาถัก ทอ มาสานกันค่ะ

จนเกิดเป็นหมอนอิง ฉบับสาวๆ หนุ่มๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ 

งานนี้ เราไม่ยกเว้น แม้แต่ชายหนุ่มในฝ่ายพี่ ก็ถูกเกณฑ์ให้มาทำ พอทำไปทำมา ก็ชักชอบ 

ทำไปได้หลายชั้น น้องหัวหน้าบอกว่า ทำแล้ว มีสมาธิดี


งาน DIY. ให้อะไรได้มากในหมอนอิงใบนี้ คนที่ทำจะทราบดี

งาน DIY. ชิ้นนี้ สร้างความสามัคคี ทำให้เกิดสมาธิ ทำให้เป็นคนใจเย็น รู้จักแก้ปัญหา และทำให้เห็นคุณค่าของที่เราซื้อ และควรประหยัด ไม่ซื้อของสุรุยสุร่าย สุดท้ายทำแล้วก็ได้ความภาคภูมิใจ
และสามารถสร้างรายได้ แรกๆ อาจจะไม่ได้สวยงาม ต่างคนต่างทำ ต่างฝีมือกัน แต่พี่ได้เห็นคนมาดูงานตัวเอง และชี้จุดที่ตัวเองสานผ้า ถักทอผ้า แล้วบอกเป็นของตนเองตรงแถวนั้น แถวนี้ ได้เห็นรอยยิ้มของคนที่ทำ ได้เห็นน้องผู้ชาย ผู้ชายจริง มานั่งทำ มันน่ารักมากๆ เลย


วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ถังขยะรีไซเคิล และ ถังขยะ ทั่วไป แยกขยะทิ้งอย่างไรในถังสองประเภทนี้

         
           สวัสดีค่ะ  พี่มีความสับสน กับการทิ้งขยะของตนเอง คือจะแยกขยะรีไซเคิล และ ขยะทั่วไปอย่างไร เพราะมีขยะที่คล้ายๆ กัน ก็เลยไปอ่านจากแหล่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต แล้วนำมาเล่าให้ฟังนะค่ะ


 ถังขยะทั่วไป ขยะประเภทใดบ้างที่ทิ้งลงไปในถังขยะนี้
    ขยะทั่วไป คือ วัสดุหรือบรรจุภัณฑ์ที่เปื้อนเศษอาหาร ซึ่งย่อยสลายได้ยาก ไม่คุ้มค่าสำหรับ
การนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ขยะเหล่านี้จะถูกนำไปกำจัดโดยวิธีฝังกลบอย่างถูกหลักสูขาภิบาล
เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ขยะทั่วไป เช่น
ถ้วย ซองบะหมี่สำเร็จรูป  ตะเกียบเปื้อนอาหาร ซองบรรจุขนม ลูกอม ภาชนะเปื้อนอาหาร กระดาษ
ชำระ เป็นต้น  จำง่ายๆ ว่า ขยะทั่วไป ขยะประเภทปนเปื้อนเศษอาหารค่ะ 

ขยะรีไซเคิล ขยะประเภทใดบ้างที่ทิ้งลงไปในถังขยะนี้
     ขยะที่จะเข้าไปอยู่ในถังนี้ได้จะต้องมีคุณสมบัติที่ค่อน "สะอาด" และ "แห้ง" เช่น แก้วกระดาษ 
ถุงพลาสติก ช้อน-ส้อม หลอดดูดน้ำ แก้วพลาสติก กล่องนม-น้ำ ผลไม้ ขวดพลาสติก ขวดแก้ว
กระป๋องอลูมิเนียม กระดาษ กล่อง snack box เป็นต้น  จำง่ายๆ ขยะต้องแห้งและสะอาดค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.chulazerowaste.chula.ac.th/garbage/






วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

กิจกรรมแจกน้องผัก 4 ชนิด


        ในไม่กี่วันจะถึงช่วงเทศกาลความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2568  วันวาเลนไทน์  ทางทีมงาน เลขารักษ์โลกได้จัดกิจกรรมแจกผัก 4 ชนิด ได้แก่ กวางตุ้ง, กะเพรา, ใบแมงลัก, มะละกอ เป็นต้นอ่อนๆ  เพื่อให้น้องๆ หรือผู้ที่สนใจ นำไปปลูกต่อได้ ซึ่งใครที่มาซื้อเสื้อผ้ามือสองของทางหน่วยงาน ในวันวาเลนไทน์นี้ จะได้รับแจกน้องผักไปคนละหนึ่งชนิด และเพื่อเป็นการลดปริมาณขยะ วัสดุที่นำมาใส่น้องผัก จึงเป็นขวดน้ำพลาสติกที่ใช้แล้ว นำมาตัดขวด ใส่น้องผักค่ะ และ มี QR-Code ติดที่ขวดน้ำพลาสติก บอกถึงวิธีปลูก ประโยชน์ของผักให้น้องๆ ได้ทราบถึงประโยชน์กันค่ะ มาดูว่าผักแต่ละชนิด ทั้งสี่ มีประโยชน์อย่างไร และวิธีการปลูกกันนะค่ะ

น้องกวางตุ้ง 


กวางตุ้ง เป็นผักที่นิยมนำมาประกอบอาหาร ไม่ว่าจะผัดหรือต้มเป็นแกงจืด ให้รสชาติหวานกรอบ โดยเฉพาะเมนูบะหมี่หมูแดงหรือเกี๊ยวก็จะมีผักชนิดนี้แซมอยู่เสมอ โดยสามารถรับประทานได้ทั้งลำต้น ใบ และดอก ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภค แต่จะนิยมนำมาปรุงให้สุกก่อนนำมารับประทาน (ตามธรรมชาติแล้วผักกวางตุ้งจะมีเส้นใยเหนียว ๆ เคี้ยวยากสักหน่อย) ผักกาดกวางตุ้ง จะมีสารบางชนิดเมื่อถูกความร้อนแล้วจะกลายเป็นสารตัวใหม่ ซึ่งได้แก่สารไทโอไซยาเนต (thiocyanate) เมื่อได้รับสารนี้เข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย ความดันเลือดต่ำ ร่างกายอ่อนเพลีย แต่สารชนิดนี้จะสลายไปกับไอน้ำเมื่อเราเปิดฝาทิ้งไว้ แต่ถ้านำมารับประทานสด ๆ ก็ปลอดภัยเช่นกัน แต่จะมีกลิ่นเขียวบ้างเล็กน้อย

ข้อมูลอ้างอิง (Source) : https://kasets.art/Xjn13G

ขั้นตอนการปลูกผักกาดเขียวกวางตุ้ง
    1.  เตรียมถาดพลาสติกสำหรับเพาะกล้า หลังจากนั้นนำดินพร้อมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 
         ในอัตรา 2 : 1 ใส่ดินผสมดังกล่าวในถาดที่เตรียมไว้
    2.  หาเศษไม้เล็กๆ กดลงไปในดิน โดยความลึกประมาณ 0.5 ซม.
    3.  นำเมล็ดหยอดลงในหลุม โดยหลุมละ 1-2 เมล็ด แล้วนำดินไปกลบพร้อมรดน้ำให้เรียบร้อย
    4.  เมื่อเข้าสู่วันที่ 7-10 ผักกาดเขียวกวางตุ้งเริ่มมีการเจริญเติบโต ควรรดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง ทั้งเช้า
         และเย็น
    5.  พอเข้าสู่วันที่ 20-25 สามารถย้ายกล้าลงปลูกในกระถางได้
    6.  เก็บผลผลิตได้เมื่อเข้าสู่วันที่ 40-45

การดูแล
    1.  เมื่อเราย้ายกล้าจากถาดพลาสติกลงในกระถาง หมั่นรดน้ าอย่างสม่ าเสมอทั้งช่วงเช้าและเย็น
    2.  พอย้ายปลูกได้ 7-10 วัน ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ในอัตรา 1 ช้อนแกงต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร
    3.  เมื่อหว่านปุ๋ยเคมี ควรรีบรดน้ำให้ต้นผักกาดเขียวกวางตุ้งทันที ถ้าเพาะในกระถาง

อ้างอิงจาก https://decor.mthai.com/garden/47901.html

นายกะเพรา 


วิธีการปลูกกะเพรา

สำหรับวิธีปลูกกะเพรานั้นสามารถใช้ได้ทั้งเมล็ดปลูก และการชำกิ่ง กะเพราสามารถปลูกได้กับดินทุกชนิด แต่ถ้าปลูกในดินร่วน จะระบายน้ำได้ดีและให้ผลผลิตที่ดีกว่า การให้น้ำต้องหมั่นให้ทั้งเช้า – เย็น และควรปลูกไว้ในที่ที่ได้รับแดดแบบเต็มวัน
อ้างอิง https://www.sanook.com/campus/1421879/

ประโยชน์ของกะเพรา

ช่วยขับไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย

มีฤทธิ์ในการลดระดับของไขมันในร่างกาย มีการทดลองใช้ใบกะเพราในกระต่ายทดลองโดยให้กระต่ายกินใบกะเพราเป็นเวลา 4 สัปดาห์ติดต่อกัน ผลปรากฎว่า ระดับไขมันโดยรวมในกระต่ายลดลงโดยเฉพาะไขมันเลว ในขณะที่ไขมันชนิดดีกลับเพิ่มขึ้น

ช่วยควบคุมโรคเบาหวาน

มีฤทธิ์ในการขับไขมันและน้ำตาลที่เป็นส่วนเกินออกจากร่างกายได้จึงช่วยลดระดับของน้ำตาลในเลือดได้ดี  กะเพราจึงสามารถป้องกันโรคเบาหวานได้    

ป้องกันโรคมะเร็ง

สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งในช่องปากได้ โดยมีการนำเอาสารสกัดชนิดน้ำและชนิดผงจากใบกะเพราแบบเข้มข้นและแบบอ่อนมาทดลองกับเซลล์มะเร็งช่องปาก พบว่า สารสกัดทั้งสองนั้นมีฤทธิ์ในการทำลายเซลล์มะเร็งในช่องปากได้ นอกจากนี้ยังพบว่า สารที่สกัดจากใบกะเพราด้วยเอทิลแอลกอฮล์ มีฤทธิ์ต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ และมะเร็งผิวหนังในหนู

รักษาสุขภาพในช่องปาก

งานวิจัยชิ้นหนึ่งได้มีการศึกษาประเด็นเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพในช่องปาก โดยแบ่งผู้ทดลองให้ใช้น้ำยาบ้วนปากจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ  ผลการทดลองพบว่า ผู้ที่บ้วนปากด้วยกะเพรามีระดับคราบพลัคและอาการเหงือกอักเสบลดลงเมื่อเทียบกับผู้ที่ใช้คลอร์เฮกซิดีน ที่สำคัญยังไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ อีกด้วย

อ้างอิง  https://hdmall.co.th/blog/c/benefits-of-basil-and-caution/


น้องแมงลัก


วิธีการปลูกแมงลัก

วิธีปลูกผักอีตู่ (ต้นแมงลัก) ในกระถาง ผสมดินร่วน ปุ่ยคอก แกลบ ขุยมะพร้าว ทราย ปูนขาว ให้เข้ากัน จากนั้น พรวนดิน แล้วตากแดดทิ้งไว้ 7 วัน เสร็จแล้ว นำดินใส่กระถาง เตรียมไว้ โรยเมล็ดแมงลักลงไปให้ทั่ว ๆ โรยดินทับลงไป แล้วรดน้ำให้ดินชุ่ม เสร็จแล้ว นำกระถางไปวางไว้ในที่ที่โดนแสงแดด รดน้ำวันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 2 สัปดาห์ รอจนกว่าต้นแมงลักจะโตเป็นต้นกล้า พอต้นแมงลักโตเป็นต้นกล้าแล้ว ให้ย้ายต้นกล้าลงในกระถางใหญ่ โดยเวลาย้าย ให้ขุดดินพร้อมต้นกล้าขึ้นมา ใส่กระถางใหญ่ ซึ่งรดน้ำจนดินชุ่มดีแล้ว จากนั้น ฝังรากต้นแมงลักลงไปในดิน แล้วรดน้ำให้ดินชุ่มอีก 1 รอบ นำต้นแมงลักมาไว้ในที่แสงรำไร แล้วรดน้ำต่อวันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 3 – 5 วัน พอต้นแมงลักเริ่มแข็งแรงดีแล้ว ให้ย้ายไปไว้ในที่ที่โดนแสงแดดดี แล้วเริ่มใส่ปุ๋ยคอก และคอยรดน้ำให้ดินชุ่มสม่ำเสมอ ระหว่างปลูก ให้คอยเด็ดยอดอ่อน เพื่อให้ต้นโตเร็วมากยิ่งขึ้น (สามารถนำยอดอ่อนมาปักชำข้าง ๆ ตรงพื้นที่ว่างในกระถางได้) เมื่อต้นแมงลัก โตจนมีอายุ 2 เดือนขึ้นไป ก็สามารถเก็บใบแมงลัก มาบริโภค หรือ ขายเพื่อสร้างรายได้ ได้แล้ว  

https://www.kroobannok.com/91530

ประโยชน์ของใบแมงลัก

เมล็ด  –  ออกฤทธิ์เป็นยาระบาย โดยการเพิ่มปริมาตรของกากอาหารกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้

ใบ –  ใช้ขับลม

https://morkeaw.net/hairy-basil/


มะละกอ


วิธีการปลูก
มะละกอเป็นไม้ผลที่ชอบดินร่วนปนดินทราย ดินเหนียวปนดินร่วน หรือดินร่วนที่มีการระบายน้ำดี มีอินทรีย์วัตถุมาก ไม่ชอบน้ำขัง และควรมีหน้าดินลึกไม่น้อยกว่า 1 เมตร ช่วงระดับความเป็นกรด-ด่าง (pH) ที่เหมาะสมคือ 5.5-7 มะละกอไม่ทนดินเกลือและไม่ทนลม แหล่งปลูกจึงควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีลมแรง ถ้าหลีกเลี่ยงในการเลือกพื้นที่ที่มีลมแรง 
ถ้าได้รับแสงแดดเต็มที่ มะละกอมีก้านใบยาว และกลุ่มใบจะมีมากที่ยอด จึงไม่ควรปลูกมะละกอให้ชิดกันเกินไป จะทำให้ไม่สะดวกในการป้องกันกำจัดศัตรูของมะละกอ 

ประโยชน์ของมะละกอ
- บำรุงสายตา
มะละกอเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตมินเอ วิตามินที่สำคัญต่อการทำงานของจอประสาทตาและการมองเห็น โดยเฉพาะการมองเห็นในตอนกลางคืน อีกทั้งเบต้าแคโรทีนในมะละกอยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ
และเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ จึงช่วยเสริมพลังในการบำรุงสายตาของเราได้อีก

- เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
มะละกอมีสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้าแคโรทีน ซึ่งสารอาหารที่มีประโยชน์เหล่านี้จะช่วยเสริมภูมิคุมกันของร่างกาย ช่วยให้เราไม่ป่วยได้ง่าย ๆ

- บรรเทาอาการเลือดออกตามไรฟัน
วิตามินซีมีส่วนสำคัญในการป้องกันเลือดออกตามไรฟัน และในมะละกอเองก็มีวิตามินซีอยู่ไม่น้อยนะคะ รวมไปถึงวิตามินอื่น ๆ อีกมากมาย

- บำรุงเลือด บำรุงน้ำนม
สารอาหารในมะละกอมีส่วนช่วยบำรุงเลือด และช่วยขับน้ำนมให้คุณแม่หลังคลอด อีกทั้งการกินมะละกอสุกยังช่วยผ่อนคลายระบบประสาทของคุณแม่ด้วยนะคะ ส่งผลให้การหลั่งน้ำนมเป็นไปอย่างไหลลื่นมากขึ้น

- ช่วยย่อยอาหาร
เอนไซม์ปาเปนในมะละกอที่มีสรรพคุณในการย่อยเนื้อก็มีส่วนช่วยย่อยอาหารในกระเพาะอาหารได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นไม่ว่าจะกินมะละกอดิบจากเมนูส้มตำ หรือกินมะละกอสุกก็ได้รับเอนไซม์ช่วยย่อยอาหารได้เหมือนกันเลย

- แก้ท้องผูก
มะละกอมีไฟเบอร์สูง และมีน้ำย่อยธรรมชาติที่สามารถกำจัดคราบโปรตีนเก่า ๆ ที่ร่างกายย่อยไม่หมดออกไป ช่วยกำจัดอุปสรรคที่ขัดขวางการขับถ่ายของลำไส้ รวมทั้งพาเอาปัญหาท้องผูกออกไปจากตัวเราด้วย ที่สำคัญคือ ยังมีสารเพกตินที่เป็นสารช่วยเคลือบกระเพาะและลำไส้ ช่วยลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร พร้อมกับสรรพคุณที่ช่วยให้กากอาหารมีมากขึ้นจนไปกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวถ่ายออกมา เมื่อถ่ายง่าย ถ่ายคล่อง ก็จะช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ด้วยล่ะ

- มีเบต้าแคโรทีนช่วยต้านมะเร็ง
มีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้าแคโรทีน มีคุณสมบัติช่วยป้องกันเซลล์ร้ายเกิดขึ้นกับร่างกาย 

http://www.medi.co.th/news_detail71.php?q_id=988
 



วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2568

ความเป็นมาของถังขยะ DIY

           สวัสดีค่ะ  หายไปนานตั้งแต่กลางปีที่แล้ว พ.ศ.2567  วันนี้กลับมาอีกครั้ง กับโพสเรื่อง ความเป็นมาของถังขยะนะค่ะ ได้รับโจทย์มาจากผู้บริหารของหน่วยงาน ทุกฝ่ายต้องประดิษฐ์ถังขยะ DIY ก็พอมีเวลาอยู่บ้างในช่วงนั้น สักประมาณหนึ่งเดือน ก็ลองหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต จะทำรูปแบบขยะแบบใดดี ก่อนอื่นพี่รุ่งก็เลยหาสิ่งของเหลือใช้ของฝ่าย ก็มีกล่องใส่แฟ้ม มีเคสถังขยะที่น้องกมลวรรณแอบหลบซ่อนไว้ ซึ่งดัดแปลงมาเป็นถังขยะ  และวานน้องกมลวรรณ ช่วยหาแกลลอนน้ำให้ที รวดเร็วมาก ได้ภายในวันนั้น
น่ารักจริง ในขณะนั้น มีแค่สิ่งของสามสิ่งนี้  วัดขนาดสิ่งของแล้ว ก็มาร่างงานในโปรแกรม sketch up เสาร์ อาทิตย์ ก็เป็นดั่งภาพ ผ่านการประชุมของน้องๆ พี่ ๆ ในฝ่ายต่อมา



ขั้นตอนจากการร่างแบบเสร็จ  ก็มาให้ผู้ชายช่วยตอกไม้ให้ และใช้ลูกหนูตัดแกลลอนเพื่อ
ทำเป็นลิ้นชัก ถ้าพี่รุ่งทำได้ ก็อยากจะทำนะ  ตอกไม้ ตอกตะปู จนปัญญาจริง ๆ

          อุปกรณ์ที่เพิ่มเข้ามาก็แผ่นไม้อัด ไปเดินหากันกับน้องกมลวรรณอีกแล้ว แถวคูน้ำ และ ล้อเลื่อนได้จากของเก่าจากสุสานของหน่วยงาน มาประกอบกันตามภาพ ยังไม่จบ ยังมีออกแบบโปสเตอร์ติดด้านข้างอีกนะ  





          การทำงาน DIY หรือการประดิษฐ์ด้วยตัวเอง แม้ว่าเราจะใช้ของเหลือใช้ที่มีอยู่แล้ว แต่บางครั้งก็ยังต้องซื้อวัสดุหรืออุปกรณ์บางชนิดเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติในหลายๆ งาน DIY ที่บางครั้งอาจต้องการวัสดุที่เฉพาะเจาะจง หรือเครื่องมือที่จำเป็นในการทำ เพื่อให้งานมีความ สมบูรณ์ สวยงาม คงทน พี่เน้นประโยชน์ใช้สอย ความคงทน และใช้ได้นาน มีความสวยงาม เพื่อต่อยอด  นำงานนี้ไปรณรงค์ เชิญชวน นิสิต และบุคลากรที่เข้ามาใช้บริการของสำนักหอสมุด สนใจและเข้ามาที่    ถังขยะนี้  มาคัดแยกขยะ มาใช้กระดาษหมุนเวียนได้ ไม่ใช่เดินผ่านไป ไม่สนใจ
ถังขยะ จะอยู่อีกยาว ไม่ใช่เดือน สองเดือน แล้วสุดท้ายกลายเป็นขยะ  คือแนวคิดที่พี่ทำค่ะ  

งานนี้ เป็น EP.1  เป็นการรณรงค์ เชิญชวน ในการคัดแยกขยะ
                            และขยะที่ทำการแยก จะมีป้ายบอกให้นำกลับไปใช้ได้ หมุนเวียนต่อไป

                  EP.2  จะมีจุดพักขยะในฝ่ายงานของพี่ และนำขยะที่ได้ ส่งต่อไป ยัง   
                           โครงการ “วน”  









วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2567

จัดตกแต่งสถานที่ในงานกิจกรรมหรือนิทรรศการด้วยการนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วมาตกแต่งใหม่

       งานตกแต่งสถานที่ด้วยวัสดุเหลือใช้ หากจะทิ้งและต้องกลายเป็นขยะ นำมาใช้ใหม่ ด้วยการประดิษฐ์เป็นต้นไม้ปลอมขนาดใหญ่ สูงประมาณ 180 CM

        จากภาพมีกล่องใส่กระดาษชำระที่ใช้ในห้องน้ำ มีเพียงจำนวน 4 กล่องใหญ่  จึงได้นำมาต่อเรียงกันยึดติดให้แข็งแรง และหุ้มด้วยกระดาษคราฟ   ด้วยในเวลาที่จำกัด เพราะไม่ใช่แค่วัสดุที่นำมาตกแต่ง ฉากงานต่างๆที่ประกอบในงานก็ต้องดำเนินการ เพราะฉะนั้นจึงต้องมีการวางแผนการทำงานตั้งแต่เนิ่นๆ งานต้นไม้ที่ทำนี้จะใช้เวลามากในเรื่องของการทำใบและดอกด้วยถุงขยะหอม ซึ่งเป็นของใหม่ (ไม่สามารถหาถุงขยะที่เป็นสีสันเหมือนใบไม้ หรือดอกได้ และรวบรวมถุงขยะที่ใช้แล้วไม่ทัน จึงเป็นการผสมผสานระหว่างของที่ใช้แล้วจำนวนหนึ่ง เช่น กล่องกระดาษ ขวดน้ำพลาสติก ที่ใช้แล้ว และถุงขยะสีสันสีเขียวกับ แดง งานประดิษฐ์ ใช้เวลาทำประมาณ 2 อาทิตย์  




และเมื่อทำเสร็จนำมาตกแต่งสถานที่ในฉากงานสถาปนาสำนักหอสมุด ครบรอบ 47 ปี

ตอนทำก็คิดว่า มันจะออกมาสวยไหม โดยเฉพาะต้นไม้ เพราะตอนขึ้นโครงต่อกิ่งก้านด้วยขวดน้ำพลาสติก ด้วยก้านเสียบลูกโป่ง  ตอนนั้นมันดู งงๆ กับคนที่เขามองเห็น เขาก็เข้ามาถาม ว่าทำอะไร ทำไปก็ถอดใจไป เพราะใช้เวลาด้วย โดยเฉพาะที่นำถุงขยะมาทำเป็นใบ ดอก ต้องมาตัด มามัด กับขวดน้ำ ใช้ปืนกาวยึดขวดน้ำกับลำต้น ต้องใช้เก้าอี้ปีนขึ้นไปเวลาต่อใบต่อดอก เพราะสูง อยากรณรงค์ให้น้องๆ นำสิ่งของเหลือใช้
มาทำงานต่างๆ อย่างพี่รุ่งก็นำมาใช้ในการตกแต่งฉากงาน แม้จะไม่ได้ใช้วัสดุเหลือใช้ 100 เปอร์เซ็นต์ เลยติดที่ผู้ปฏิบัติงานท่านเดียว เวลาในการทำ แต่ก็หวังว่า ฉากงานนี้ที่น้องๆ เพื่อน ๆ ในองค์กรเห็น จะเป็นแนวทางในการนำสิ่งของเหลือใช้ที่เราใช้แล้ว ต้องนำทิ้งกลายเป็นขยะ อย่างพลาสติกก็ต้องใช้เวลาในการย่อยสลาย หากเผาทำลายก็เกิดมลพิษ เกิดการเผาไหม้ ส่งผลเพิ่มก๊าซเรือนกระจก ส่งผลต่อโลก ต่อมนุษย์  ในทุกวันนี้เราจะเห็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งรุนแรงมาก และ อากาศที่ร้อนจัดมากขึ้นทุกปี
ช่วยกันนะค่ะ...








วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

7 วิธีลดขยะให้โลกน่าอยู่


 มี 7 วิธี หรือที่เรียกกันว่า 7 R มานำฝาก นะค่ะ 

1.Refuse  ปฏิเสธถุงพลาสติกและโฟม 

        จากรายงานขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ระบุว่าประเทศไทยมีปริมาณขยะประเภทพลาสติกและโฟมมากถึง 2.7 ล้านตัน หรือ เฉลี่ย 7,000 ตันต่อวัน ซึ่งในจำนวนนี้ ไม่สามารถกำจัดด้วยวิธีฝังกลบได้ทั้งหมด เพราะ

        พลาสติกใช้เวลาย่อยสลายถึง 450 ปี เผาทำลายไม่ได้ เพราะพลาสติกมีส่วนประกอบของเม็ดปิโตรเลียม ซึ่งเมื่อละเหยไปในบรรยากาศ จะสร้างสารปนเปื้อนในดินและน้ำ

2.  Recycle  (แยกขยะให้เป็นนิสัย)


    ทุกคนคงเคยเห็นถังขยะหลากหลายสีมาตั้งแต่เด็ก แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากการแยกขยะให้เป็นนิสัย จะช่วยให้กำจัดขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว มันยังช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ใช้ในกระบวนการกำจัดขยะอีกด้วย เพราะแต่ละวัน เจ้าหน้าที่จะต้องเก็บขยะวันละมากกว่า 9,000 ตัน ซึ่งใช้งบประมาณมากกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี  ซึ่งการแยกขยะ และทิ้งขยะลงในถังตามสี คือ ทิ้งเศษอาหาร กากของผัก ผลไม้ ในถังสีเขียว ทิ้งแก้วอลูมิเนียม หรือวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ในถังสีเหลือง และทิ้งขยะทั่วไปที่สามารถนำไปเป็นเชื้อเพลิง ตลอดจนใช้เป็นสิ่งประดิษฐ์ เช่น กล่องนม เศษผ้า ยาง ไม้ในถังสีน้ำเงิน เพียงเท่านี้ ทุกคนก็สามารถช่วยโลกได้ และยังเป็นการช่วยประหยัดงบประมาณของประเทศอีกทางหนึ่งด้วย

3.  Reuse  (ใช้อย่างคุ้มค่า)


        -  อาจจะเริ่มจากการใช้ปากกาจนหมดด้าม เขียนดินสอจนหมดแท่ง 
        -  การใช้กระดาษให้เต็มทั้งสองหน้าจนเป็นนิสัย
        -  ลองเอาของที่ไม่ใช้แล้วมาทำเป็นของใช้หรือดัดแปลงเป็นของ D.I.Y

ลองประดิษฐ์ของชิ้นเล็กๆ น่ารัก แล้วนำไปมอบให้คนที่คุณรักดูสิ แล้วจะรู้ว่างาน D.I.Y 
ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด
(ตอนนี้ กำลังคิดว่าจะทำอะไรให้พี่สาวคนหนึ่งในวันคล้ายวันเกิดสักชิ้น จะทันไหมหนอ 3 พ.ค.นี้)😁

4.  Refill  (เลือกซื้ออะไรที่เติมได้ ลดขยะจากบรรจุภัณฑ์)

เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อของอุปโภคต่างๆ เช่นน้ำยาซักผ้าแบบ Refill  ลดการซื้อของในบรรจุภัณฑ์ใหม่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในบ้านลงได้มากกว่า 30 %

การทำแบบนี้จะช่วยลดมลภาวะที่เกิดจากกระบวนการผลิต Packaging ในโรงงานได้ด้วย เรียกว่าทำแค่อย่างเดียว แต่ช่วยโลกได้สองต่อเลยนะ!

5.  Refair  (ใช้อย่างทะนุถนอม ซ่อมแซมเท่าที่ทำได้)

        เคยลองสังเกตุสิ่งของรอบตัวดูบ้างไหม ว่าเรากำลังใช้มันอย่างผิดวิธี หรือกำลังทำให้มันพังก่อนถึงเวลาหรือเปล่า โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเช่น
    - อย่าเปิดแอร์อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศา
    - ไม่ใช้ไมโครเวฟกำลังแรง อุ่นอาหารเป็นเวลานาน
    - ไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์มากกว่าวันละ 8 ชม.
    - ฝึกซ่อมอุปกรณ์ด้วยตนเองช่วยลดปริมาณขยะ แทนที่เราจะต้องทิ้งสิ่งของนั้นไป

6.  Reduce  (ลดการใช้สิ่งต่างๆ)

ลองเลือกซื้อผลิตภัณฑ์หรือสินค้าขนาดใหญ่ใช้ได้นาน แทนการซื้อสินค้าที่มีขนาดเล็ก หรือมีปริมาณน้อยหลายๆ ชิ้นดูสิ ถ้าอะไรที่มีอยู่แล้ว ลองห้ามใจตัวเอง ไม่ซื้อของประเภทเดียวกันหรือแบบเดียวกันไว้ที่บ้าน นอกจากจะลดปริมาณขยะได้มากแล้ว ยังเป็นวิธีต้ดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นอีกด้วย

7.  Return  (หมุนเวียนมาใช้ใหม่)

        หลายคนคงอาจไม่รู้ว่า การคืนขวดน้ำอัดลม หรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆ กลับไปสู่ผู้ผลิตนั้น นอกจากจะผ่านการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่แล้ว กระบวนการดังกล่าว ยังมีส่วนช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางทะเลด้วย เนื่องจากขวดแก้ว หรือบรรจุภัณฑ์ที่เป็นแก้ว ต้องใช้ทรายเป็นวัตถุดิบหลัก โดยทั้งหมดจะถูกขุดขึ้นมาจากบริเวณรอบๆ ชายฝั่งทะเล การใช้ทรายแก้วจำนวนมาก จึงทำให้แนวดินดอนชายฝั่งทะเลถูกทำลาย และเสียรูปทรงดั้งเดิม อีกทั้งถูกกัดเซาะสูงขึ้น จนเกิดเป็นปัญหาภูมิทัศน์ทางทะเลตามมา เราจึงควรแยกขวดแก้วออกจากขยะอื่นๆ และส่งคืน เพื่อกระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่ และรักษาชายหาดที่สวยงามไปพร้อมกัน

อาจจะไม่ต้องทำตามให้ครบทุกวิธี แต่แค่เลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง แล้วนำมาปรับใช้อย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถกลายเป็นหนึ่งกำลังสำคัญที่ช่วยโลกของเราให้น่าอยู่ขึ้นเป็นกอง


อ้างอิงข้อมูลจาก https://kasets.art/DEASOw

วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2567

7 วิธีประหยัดน้ำ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์

     

      สวัสดีค่ะ ก้าวผ่านช่วงสงกรานต์ไปไม่นาน ก็เลยขอย้อนเวลาไปหน่อย สำนักงานเลขานุการ
สำนักหอสมุด มีข้อมูลเกี่ยวกับ 7 วิธีประหยัดน้ำในช่วง เทศกาลสงกรานต์มาฝากกันค่ะ ถึงจะผ่านเทศกาลสงกรานต์ไปแล้ว แต่ก็สามารถนำความรู้นี้ ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ร่วมกันรักษ์โลก ใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันนะค่ะ









ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/travel/1063041
กราฟิก  : Walacha






กิจกรรมใหม่

ผ้าเก่า มีค่า อย่าทิ้ง

 สวัสดีค่ะ เดือนมีนาคม วันนี้ มาพูดถึงเรื่องผ้าเก่า หรือเสื้อผ้าเก่าๆ ที่สาวๆ อย่างพี่ หรือน้อง มีเสื้อผ้าใส่กันมากมาย ซื้อแบบบางชุดใส่เพียง...